THE INTERVIEW
ในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ McBrown ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การปรับตัวและมองการณ์ไกลคือหัวใจสำคัญของการศึกษา โรงเรียนแห่งนี้ไม่เพียงแค่สอนภาษาอังกฤษ แต่ยังออกแบบระบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทั้งปัจจุบันและอนาคต วันนี้ SkoolELT ได้มาพูดคุยกับคุณอนุพงศ์ มิตรเทวิน ผู้ก่อตั้งโรงเรียน McBrown เพื่อเจาะลึกถึงแนวคิดและความสำเร็จของโรงเรียนที่เปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นโอกาส
Q: เล่าจุดเริ่มต้นของ McBrown ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ?
A: ต้องบอกว่าทุกอย่างเริ่มจากการแก้ปัญหาครับ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราสังเกตเห็นว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษเพียงพอ การเรียนแบบกลุ่มใหญ่ทำให้หลายคนตามไม่ทัน แต่ถ้าเรียนตัวต่อตัวก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไปสำหรับบางคน เราเลยออกแบบระบบการเรียนกึ่งตัวต่อตัวขึ้นมา เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องคุณภาพการเรียนและค่าใช้จ่าย
Q: ฟังดูเหมือนเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมาก แล้วพัฒนาการของโรงเรียนในช่วงแรกเป็นอย่างไรครับ?
A: ในช่วงแรก เราเน้นการแก้ปัญหาเรื่องเวลาและตารางเรียนครับ เราสร้างโรงเรียนที่เลือกวันหรือเวลาเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ ให้แก้ปัญหาความไม่สะดวกสบายของตารางเวลา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดที่เป็นปัญหาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เช่น การจราจรที่ติดอย่างหนักหน่วงเมื่อก่อนเกิดภาวะโรคระบาด, ปัญหาประชากรล้นเมือง ฯลฯ เพราะสมัยนั้น กรุงเทพฯ รถติดหนักมาก เราให้ผู้เรียนเลือกเวลาเรียนได้ตามสะดวก ซึ่งช่วยลดอุปสรรคเรื่องการเดินทางได้เยอะ
Q: แล้วในช่วงโควิด-19 ที่ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก โรงเรียนรับมือกับสถานการณ์ยังไงครับ?
A: ตอนนั้นท้าทายมากครับ โรงเรียนต้องปิดเปิดอยู่ตลอด แต่เราไม่อยากให้การเรียนของนักเรียนต้องสะดุด เลยสร้างระบบการเรียนออนไลน์แบบอินเตอร์แอคทีฟขึ้นมา นักเรียนสามารถเรียนจากบ้านได้เลย แล้วก็พัฒนาต่อเป็นระบบ Hybrid
Q: แล้วระบบไฮบริดที่คุณพูดถึงคืออะไรครับ?
A: ระบบไฮบริดเป็นการผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ครับ ตัวอย่างเช่น หากนักเรียนเรียนออนไลน์ที่บ้านในวันที่พายุฝนเข้า น้ำท่วม หรือฝุ่น PM 2.5 ปกคลุมทั่วเมือง เมื่อทุกอย่างกลับมาปกติ เขาสามารถกลับมาเรียนต่อที่โรงเรียนได้ทันที โดยที่ไม่มีรอยเย็บที่สะดุดใดใด และกลายเป็นว่าในวันนี้ระบบไฮบริดที่เราสร้างขึ้น เป็นระบบที่ตอบโจทย์ต่อการอยู่บนโลกมนุษย์ปัจจุบัน ในสภาพแวดล้อมที่ในบางวันนั้นไม่เอื้ออำนวยต่อการอยู่อาศัยมากนัก
Q: คุณคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น ภัยธรรมชาติ มีผลกระทบต่อการศึกษาในปัจจุบันอย่างไรครับ?
A: ผมว่าผลกระทบมันชัดเจนมากนะครับ ทุกวันนี้พายุฝน, ฝุ่น PM 2.5 หรือแม้แต่ความร้อนจากภาวะโลกร้อนรุนแรงกว่าสมัยก่อน เราเลยต้องออกแบบระบบที่ให้นักเรียนตัดสินใจเองได้ว่าจะเรียนออนไลน์จากบ้านหรือเดินทางมาโรงเรียนในวันที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
เช่น หากมีช่วงที่พายุฝนเข้า (ซึ่งต้องยอมรับว่าพายุฝน ณ ปัจจุบันนี้อันเกิดจากสภาวะโลกร้อนความรุนแรงหนักหน่วงกว่าเมื่อสมัยก่อนเยอะ) เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฝ่าฝน หรือแม้กระทั่งฝ่าน้ำท่วมอันเกิดจากฝนนั้นๆ เพื่อที่จะไปโรงเรียน แต่เราสามารถเลือกที่จะ 1.) เรียนออนไลน์ที่บ้าน ในเนื้อหาของวันนั้น เรียนต่อกันไปได้เลย หรือ 2.) เลือกที่จะพักผ่อนในวันนั้น ทำกิจกรรมอื่นๆแทน
ในวันที่ฝุ่น PM 2.5 ปกคลุมทั่วเมือง เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะฝ่าฝุ่นออกมาข้างนอก เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์ของการเรียน หรือเราจะอยู่บ้าน เปิดเครื่องกรองกรองอากาศ แล้วเรียนออนไลน์ในเนื้อหาที่ต่อกัน ก็ทำได้ครับ หรือหากผู้เรียนตัดสินใจที่จะมาใช้เวลาที่โรงเรียน เราก็รักษาคุณภาพของอากาศโดยมีเครื่องกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานที่โรงเรียน เพื่อให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมปลอดภัย
โรงเรียนเราให้อิสรภาพอย่างเต็มที่แก่นักเรียนในเรื่องนั้นได้ เราให้อิสรภาพอย่างเต็มที่ในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเมื่ออยู่กับเราได้
Q: ผมได้ยินมาว่าระบบนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย คุณช่วยเล่าเพิ่มเติมได้ไหมครับ?
A: ใช่ครับ ในมุมผู้เรียน ระบบไฮบริดช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการเดินทางไปได้เยอะเลยครับ ส่วนในมุมของโรงเรียนนั้น จะช่วยลดต้นทุนในเรื่องการขยายสาขาของโรงเรียน เราไม่จำเป็นต้องเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่นอกเมืองอีกต่อไป นักเรียนที่อยู่ไกลสามารถเรียนออนไลน์เป็นหลัก และเลือกมาเรียนที่โรงเรียนแค่ปีละไม่กี่ครั้งก็ได้ ทั้งหมดที่กล่าวมาเราไม่ได้แค่พูดเฉยๆนะครับ เราพบว่านักเรียนที่เลือกเส้นทางนี้ประสบความสำเร็จเทียบเท่าหรือมากกว่านักเรียนที่มาเรียนที่โรงเรียนทุกวันด้วยซ้ำไป
Q: แล้วเป้าหมายในอนาคตของ McBrown มีอะไรบ้างครับ?
A: ในอนาคตเรามีแผนพัฒนาโรงเรียนที่จะขยายไปต่างประเทศ ซึ่งประเทศแรกที่เราวางแผนไว้คือ ประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกัน ในวันที่หิมะตกหนัก ไม่เอื้ออำนวยต่อการขับรถ หรือเดินทางมาเรียนที่โรงเรียน วันนั้นคนก็สามารถเลือกที่จะอยู่บ้านเปิดฮีตเตอร์ กินช็อกโกแลตร้อนๆ เรียนออนไลน์จากที่บ้านได้ ในเนื้อหาที่ต่อเนื่องกัน
หากภัยธรรมชาติต่างๆ กินระยะเวลายาวนานมากขึ้น ผู้เรียนก็สามารถใช้เวลาอยู่บ้านเพื่อที่จะเรียนออนไลน์ในเนื้อหาที่ต่อเนื่องกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และสามารถดำเนินชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยภัยธรรมชาติต่างๆได้
ข้อดีของระบบไฮบริดคือเมื่อภัยธรรมชาตินั้นๆ ได้จบสิ้นลงแล้วผู้เรียนก็สามารถกลับมาเรียนต่อที่โรงเรียน ต่อจากเนื้อหาที่เรียนออนไลน์มาได้เลย ไม่ให้เป็นการเสียเวลา
Q: คุณมีอะไรอยากฝากถึงผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจ McBrown ไหมครับ?
A: ผมอยากบอกว่า การเรียนรู้ที่ดีไม่ได้หมายความว่าต้องทำตามกรอบเดิม ๆ เสมอไป เราให้ความสำคัญกับอิสรภาพของนักเรียน เพราะเราเชื่อว่าคุณภาพชีวิตที่ดีจะช่วยให้นักเรียนเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ
McBrown ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่เรียนภาษา แต่ยังเป็นพื้นที่ที่นักเรียนสามารถออกแบบการเรียนรู้ของตัวเองได้อย่างยืดหยุ่นและมีคุณภาพ หากคุณกำลังมองหาการศึกษาที่เข้าใจชีวิตยุคใหม่ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ th.brown-english.com